วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

If-Clause

If-Clause
แบบที่ 1 
Form > If + Present Simple, Will + V1 
วิธีใช้ 
ใช้กับเหคุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน เช่น
·       If I have enough money, I will go to Japan. (ถ้าฉันมีเงิน ฉันจะไปญี่ปุ่น)
·       I won’t go outside if the weather is cold. (ฉันจะไม่ออกไปข้างนอกถ้าอากาศมันเย็น)
·       If you eat too much, you will get fat (ถ้าคุณกินมากเกินไป คุณก็จะอ้วน)



แบบที่ 2 
Form > If + Past Simple, would + V1 (would แปลว่า น่าจะ) (Past Simple -> would + V1)
วิธีใช้ 
ใช้กับเหคุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในปัจจุบัน หรือ อนาคต เช่น

·       If I knew her name, I would tell you. (ถ้าฉันรู้ชื่อเธอ ฉันก็น่าจะบอกคุณ) [จริงๆ แล้วไม่รู้จักชื่อเธอ]
·       It would be nice if you helped me do the housework. [มันน่าจะดีถ้าคุณได้ช่วยฉันทำงานบ้านบ้าง] [จริงๆ แล้วเธอไม่ช่วยเลย]
·       If I were you, I would not say that. (ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันก็ไม่น่าจะพูดเช่นนั้น) [จริงๆ แล้ว ฉันไม่ได้เป็นคุณ]


แบบที่ 3 
Form > If + Past perfect, would have + V3 (Past perfect -> Had + V3)
วิธีใช้
 ใช้กับเหคุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในอดีต เช่น
·       If you had worked harder, you would have passed your exam. (ถ้าคุณขยันให้มากกว่านี้ คุณก็น่าจะสอบผ่าน) [จริงๆ แล้วสอบตกไปแล้ว]
·       I would have been in big trouble if you had not helped me. (ฉันน่าจะมีปัญหาไปแล้ว ถ้าคุณไม่ได้ช่วยฉันไว้) [จริงๆ แล้วคุณช่วยฉันไว้]
·       If I had met you before, we would have been together. (ถ้าฉันพบคุณก่อนหน้านี้ เราก็น่าจะได้อยู่ด้วยกันไปแล้ว) [จริงๆ แล้วฉันพบคุณช้าไป]